“ คนบนฟ้า” ละครที่ร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ด้วยจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ

“ คนบนฟ้า”

          เป็นละครที่เกิดขึ้นจากเป้าหมายเพื่อร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ด้วยจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ จากการร้อยหัวใจนักแสดงที่รักในหลวง ต่างพร้อมใจมาร่วมแสดงเพื่อส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยด้วยใจภัคดี

 

เรื่อง บท และ กำกับโดย  :  ภีมพ์กมล ประเสริฐวงศ์

ควบคุมการผลิต  :  เดือนเต็ม สาลิตุล

แพร่ภาพ  : วันที่ 2 มกราคม และรีรัน วันที่3 มกราคม  2560 เวลา 21.00 น   ช่อง workpoint

 

เรื่องย่อ :

           “ทอมัส” เป็นครูอาสาสมัครอายุประมาณ 30 ปี มาสอนภาษาอังกฤษให้นักเรียนในโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่ง ทอมัสมาอยู่ได้ไม่ถึงปีแต่เขาพูดภาษาไทยได้ และรักนิสัยเอื้อเฟื้อของคนไทย  วันหนึ่ง เควิน หลานชาย ที่เป็นนักข่าวอิสระ มาทำข่าวเรื่องทำไมคนไทยรักในหลวง ทอมัส เตือนหลานชายว่า  ให้ทำข่าวจากความจริงและอย่าขายวิญญาณเพื่อเงิน  แต่วันแรกที่เควิน มาก็เจอดี ทะยาน มาขโมยกล้องถ่ายรูปเขาไป ทำให้ทัศนคติของเควินไม่ค่อยดีนัก  ทอมัส พาเควินไปแนะนำให้ ครูสมสมัยรู้จัก และบอกเรื่องจุดประสงค์ของเควิน ทำให้ครูสมสมัยและกำนันหญิง ครูอื่นๆ หรือแม้แต่ แก้ว สาวตาบอด ต่างพากันให้ข้อมูลจากความรู้สึกจริงว่า ทำไมถึงรักในหลวง

            และแล้วก็ถึงช่วงเวลา วันที่  9 ตุลาคม ตั้งแต่เริ่มมีข่าวในพระราชสำนักประกาศถึงความเจ็บป่วยพระวรกาย  คนไทยหลายคนนั่งไม่ติดโดยเฉพาะ ครูสมสมัย  วันที่ 12 ตุลาคม มีข่าวมากมายจนทุกคนต้องมารวมตัวกันที่บ้านของน้ำตาล  แล้วมีข่าวประกาศว่า ในหลวงทรงมีพระอาการดีขึ้นบ้าง ทำให้ทุกคนได้เฮ  ดีใจจนน้ำตาไหล  ทอมัส มองความห่วงใยของทุกคนอย่างทึ่งในความรักมหาศาลนี้   แต่ครูสมสมัย  น้ำตาลเองก็รู้สึกไม่ดี นัดหมายกันว่าจะไปศิริราชให้ได้  ทอมัสขอไปด้วยพร้อมเอื้อยและอ้าย   วิภามาเล่าให้มนัสฟัง  มนัส อดีตราชนาวีที่เป็นมะเร็งเสียใจที่ตนเองไม่มีแม้แต่แรงพอจะไปเผ้า  มนิตย์ จึงอาสาไปแทนพ่อ

            วันที่ 13 ตุลาคม  เควิน เห็นทุกคนพากันร้อนรนตื่นเต้น  แต่น้ำตาลบอกทุกคนว่าไม่ต้องตกใจเพราะในหลวงป่วยเดี๋ยวก็หายเหมือนทุกครั้ง  และในหลวงสัญญาแล้วว่าจะอยู่ถึงร้อยยี่สิบปี  รถกะบะของลุงปลั่งทำพิษอีก หม้อน้ำแตก ทุกคนต้องช่วยกันเข็นรถลุงปลั่งมาที่อู่ที่เพิ่งผ่านมาไม่ไกล  ทอมัสเห็นชายพิการ เข็นรถเข็นพร้อมมีพระบรมรูปในหลวงและธงชาติไปตามถนนโดยมีคนสองสามคนประกบเดินตาม ทอมัสจึงรู้ว่า ชายพิการคนนั้นก็ตั้งใจจะไปหาในหลวงที่ศิริราชในที่สุดก็มีข่าวว่า จะมีประกาศสำนักนายกในตอนค่ำ ให้ทุกคนรอฟัง

             ค่ำนั้นทุกคนกระจุกนั่งรอ ช่างซ่อมรถที่อู่เล็ก ๆ  เมียเจ้าของอู่ทำอาหารมาให้ ผสมกับที่น้ำตาล  เอื้อย อ้ายไปหาซื้อมา แต่ทุกคนก็กินกันไม่ลง  ได้แต่คอยนั่งรอดูทีวี มนัสและวิภา ก็นั่งเฝ้าหน้าจอทีวีที่บ้าน  เย็นเองก็จับกลุ่มคนในร้านนั่งเฝ้าทีวี มีทะยานมาแอบๆเมียงๆมองๆ  ในที่สุด เวลาแห่งความวิปโยคก็มาถึง ในช่วงเวลาของการประกาศการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฯ  ความโศกเศร้า และหนาวจับขั้วหัวใจของทุกคนที่เกิดขึ้นทอมัสสัมผัสได้   พดด้วง รีบโทรหาพ่อ  ปลายสายได้ยินแต่เสียงสะอื้นของพ่อ  มานิตย์พูดแต่ว่า พ่อครับ ผมไปไม่ทัน ในหลวงสวรรคตแล้วมนัสได้แต่ร้องไห้กับลูกชายที่ปลายสาย

               เควินรู้เพียงว่า ความรักนี้ช่างยิ่งใหญ่   เขาไปเห็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่มีเม็ดเหงื่อของพระองค์ และมองหยาดน้ำตาของทุกคน  เม็ดเหงื่อของพระราชาของคนไทย ที่รินรดเป็นความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย กำลังถูกแทนที่ด้วยหยาดน้ำตาของคนไทยทั้งประเทศหลวงพ่อ พบทะยานนั่งกอดพระบรมฉายลักษณ์ ร้องไห้พร้อมเอ่ยว่า ตนเองบาปไหมที่ไม่เคยสำนึกในความดีของในหลสง หลวงพ่อเตือนให้กลับใจเพื่อให้ในหลวงสบายใจ  ทะยาน แอบเอากล้องถ่ายรูปมาคืนเควิน   เควินเขานั่งดูข่าว un ที่ถวายสดุดดีแก่ในหลวง  ทอมัสมองปฎิทินในหลวงที่วางข้างโต๊ะ เขายิ้ม พร้อมยืนสงบหน้าพระบรมฉายาลักษณ์  และอธิฐานให้พ่อหลวงมองเห็น ความรัก อันเกิดจากรักอันยิ่งใหญที่พระองค์เคยประทาน ความรักที่จะยังคงอยู่ นานเท่านาน…ตราบเท่าที่ทุกคน มีองค์พ่อหลวงในหัวใจและดำเนินรอยตามพระองค์