บทสัมภาษณ์ โจซองโม – The Boss สุดปลื้มได้รับเกียรติร่วมงานสานสัมพันธ์ ไทย-เกาหลี ครบรอบ 55 ปี

บทสัมภาษณ์  โจซองโม – The Boss สุดปลื้มได้รับเกียรติร่วมงานสานสัมพันธ์ ไทย-เกาหลี ครบรอบ 55 ปี

22 พฤศจิกายน 2556 ณ.ห้องสัมภาษณ์ โรงแรม  Swissôtel Le Concorde

ศิลปินคุณภาพ โจซองโม และ 5 หนุ่มบอยแบนด์วง The Boss เยือนไทยในฐานะตัวแทนศิลปินเกาหลี ร่วมกิจกรรมสานสัมพันธ์ ไทย-เกาหลี ในงาน Thailand-Korea Friendship Festival 2013 ‘Youth, the Key to The Future’  ซึ่งจัดขึ้น  ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 23-24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา  โดยมีกิจกรรมจากศิลปินแขนงต่างๆจากเกาหลีและไทย จัดแสดงให้ได้ชม และได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก

บริษัท เคทีซีซี จำกัด ผู้จัดงานได้จัดให้มีนัดสัมภาษณ์พิเศษ โจซองโม และ 5 หนุ่มวง The Boss ประกอบไปด้วยสมาชิก ฮยอนมิน Hyun Min, อินจุน In Jun, คารัม Ka Ram, เจย์  JAY และ มิกะ Mika  ศิลปินจากค่าย  Poom Entertainment  ที่ได้ร่วมพูดคุยถึงประสบการณ์มาเยือนไทย และ ความประทับใจ

 

MC : ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของทุกคนที่เดินทางมาประเทศไทยหรือเปล่าคะ?
โจ ซองโม : “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของผมที่มาไทยครับ เพราะเมื่อ 2 เดือนก่อน ผมเพิ่งไปถ่ายทำงานที่จังหวัดกระบี่  มาเมืองไทยครั้งนี้รู้สึกว่าอากาศกำลังดี เย็นๆ แตกต่างกับครั้งที่แล้วที่อากาศร้อนกว่ามาก เลยประทับใจมากครับ”
อินจุน : “พวกผมมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วครับ ตอนนี้ผมก็รู้สึกตื่นเต้น แล้วก็อยากจะเจอแฟนคลับเร็วๆ อยากร้องเพลงให้แฟนๆได้ฟังกัน แล้วก็อยากทานอาหารไทยด้วยครับ”

MC : รู้สึกอย่างไรบ้างกับการเมืองไทยครั้งนี้?
โจซองโม : “ครั้งนี้รู้สึกว่าพิเศษมากครับ ครบรอบ 55 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-เกาหลี อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความทรงจำที่ดีระหว่างสองประเทศ แล้วครั้งนี้ก็เดินทางมากับน้องๆทั้ง 5 คนด้วย”

 

MC :   The Boss กำลังจะมีผลงานอัลบั้มใหม่เร็วๆนี้ใช่มั๊ยคะ?
อินจุน : “ใช่ครับ นี่จะเป็นการคัมแบคในรอบ 2 ปี  หลังจากที่แฟนๆรอคอยมานาน พวกเรก็อยากจะทำผลงาน และ การแสดงโชว์ให้ออกมาอย่างดีที่สุด  พวกเราอยากเจอแฟนคลับเร็วๆแล้วครับ รับรองว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ”

MC : คอนเซ็ปของสมาชิก The Boss แต่ละคน แตกต่างจากอัลบั้มเดิมไหมคะ?
ฮยอนมิน : “อัลบั้มนี้จะดูแมนมากขึ้น ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าผ่านไป 2 ปีแล้วน่ะครับ”
เจย์ : “เมื่อสองปีก่อน ผมไว้ผมยาวเหมือนผู้หญิงเลยครับ  อัลบั้มใหม่นี้เลยตัดผมให้สั้นขึ้นมา ทำให้ดูแมนขึ้น หล่อมั๊ยครับ”
คารัม : “เปรียบเทียบกับ 2 ปีก่อน พวกเราทั้งห้าคนยังดูเป็นเด็ก  แต่ว่าครั้งนี้คอนเซปจะดูแมนขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น  ตอนนี้ก็ลดน้ำหนักไปได้หลายกิโล ตอนนี้ร่างกายผมมีแต่กล้ามเนื้อ  เลยอยากให้แฟนคลับได้เห็นครับ”
อินจุน : “อยากให้แฟนๆได้เห็นความแมนของพวกเรา ในแบบ  The Boss  อยากให้แฟนคลับได้ติดตามมิวสิควิดีโอเพลงใหม่ของพวกเราด้วยนะครับ”
มิกะ : “จริงๆ แล้วภายนอกดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเยอะครับ  ทั้งการเมคอัพ ทำผม เสื้อผ้า   ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาพวกเราก็มีประสบการณ์มากขึ้น ทำให้พวกเราโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นไปด้วย”

MC :  อยากให้พูดถึงบรรยากาศในการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ของพวกคุณให้ฟังหน่อยค่ะ?
อินจุน : “สนุกสนานมากครับ เราถ่ายทำกันเพลินเลยทำให้ได้ภาพที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติมาก ถึงแม้ว่าคอนเซปจะดูแมนขึ้น แต่ว่าพวกเราสนุกกับการถ่ายทำมากครับ อยากให้แฟนคลับติดตามด้วยนะครับ”

MC : แฟนๆ จะได้ฟังอัลบั้มใหม่ของ The Boss เมื่อไหร่คะ?
คารัม : “อัลบั้มจะวางจำหน่ายวันที่  28 พฤศจิกายน นี้นะครับ สามารถซื้อได้ที่เกาหลีแล้วก็ที่ไทยด้วย ฝากติดตามด้วยนะครับ”

MC : คุณ โจซองโม ในฐานะรุ่นพี่มีอะไรอยากจะแนะนำน้องๆ วง The Boss ไหมคะ?
โจซองโม : “ไม่มีอะไรที่จะแนะนำน้องๆเป็นพิเศษ หรอกครับ เพราะน้องๆเก่ง และ เป็นผู้ใหญ่กันมากขึ้นแล้ว   ก็ขอให้กำลังใจน้องๆแทนและหวังจะให้น้องๆพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น และอยากให้ได้มาเมืองไทยบ่อยๆ”

MC : รู้สึกอย่างไรที่ได้มาประเทศไทย ในโอกาสที่ครบรอบ 55 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและเกาหลี คิดว่าเมืองไทยมีเสน่ห์อย่างไรคะ?

The Boss : ผมอยากจะขอบคุณทุกท่านมากครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ให้พวกเราได้มาร่วมงานนี้  ถ้ามีโอกาสผมก็อยากมาอีกครับ

โจซองโม : “ตอนแรกผมไม่ทราบมาก่อนเลยครับว่าครบรอบ 55 ปีความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเกาหลีพอดี   สำหรับผมประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ที่ได้มาเยี่ยมเยือนมากที่สุด หวังว่าไทยและเกาหลีจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้น หวังว่าจะได้มาเยี่ยมเยือนประเทศไทยอีกครั้ง จะตาม The Boss มา ขอบคุณมากครับ (หัวเราะ) ”

MC : แต่ละคนอยากไปที่ไหนในเมืองไทยกันบ้างคะ?
ฮยอนมิน : “พวกเรา The Boss ทั้ง 5 คนอยากไปพัทยาครับ”
คารัม : “พวกเราเคยไปเที่ยวพัทยากันแล้วครับ ระหว่างทางก็มีแวะซื้อของกิน แล้วก็แวะชมวิวระหว่างทางไปด้วย เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ พูดแล้วก็นึกถึงขึ้นมาเลยครับ”

MC : อาหารไทยที่ประทับใจเป็นพิเศษ?
อินจุน : “เมื่อตอนที่ไปพัทยาครั้งที่แล้ว พวกเราสั่งอาหารไปเยอะมาก  ทานแล้วอร่อยหมดทุกอย่างเลย  ทั้งๆที่ตอนแรกกลัวว่าจะทานอาหารไทยกันไม่ได้  แต่พอได้ทานจริงๆแล้วกลับรู้สึกว่าอร่อยมากครับ  ไม่มีอะไรที่ทานไม่ได้  แต่ปัญหาคือพวกเราจำชื่ออาหารไม่ได้ เพราะว่ามันอร่อยทุกอย่าง  อร่อยมากเกินไปน่ะครับ หวังว่าเราจะได้ทานอาหารไทยอีกนะครับ”
โจซองโม : “ เบียร์สิงห์ครับ  (หัวเราะ) ผมมาเมืองไทยหลายครั้งเลยรู้สึกว่าชินกับอาหารไทยไปแล้ว  ทานได้ทุกอย่างแล้วก็ชอบหมดเลย  ผมรู้มาว่าอาหารไทยดังติดอันดับ 3 ของโลก ตอนที่ผมอยู่เกาหลีก็ทานอาหารไทยมาหลายครั้ง แต่ว่ารสชาติไม่เหมือนกับการได้มาทานอาหารไทยที่เมืองไทย  ยังไงหวังว่าในอนาคตจะได้มาเมืองไทยบ่อยๆ แล้วก็ได้ทานอาหารไทยอีกเยอะๆครับ”

MC : สามารถพูดภาษาไทยได้บ้างไหมคะ?
โจซองโม : “ผมรักคุณ”
The boss  : “ขอบคุณครับ สวัสดีครับ”
ฮยอนมิน : “โทรมานะครับ”
เจย์ : “เร็วๆๆ  , ไม่อร่อย  , อร่อยครับ”
คารัม : “น่ารักจัง”
มิกะ : “คิดถึงครับ”
คารัม : “ครับ”

 

MC : รู้สึกอย่างไรบ้างคะที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน Thai Korea friendship 2013 ในครั้งนี้?

โจ ซองโม : “มาเมืองไทยครั้งที่แล้วอากาศร้อนมากครับ แต่ครั้งนี้อากาศเย็นสบาย ผมประทับใจมาก และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมงานนี้ และหวังอย่างยิ่งว่าคนไทยและคนเกาหลีจะมีความสัมพันธ์ที่ดีและพัฒนามากขึ้นไปอีกขั้น แล้วก็มีอีกอย่าง เมื่อวานนี้น้องๆวง The Boss ต้องซ้อมเพื่อเตรียมตัวสำหรับการโชว์ที่จะมีขึ้น  เลยไม่มีโอกาสได้ออกไปรับประทานอาหารแบบเต็มที่เท่าไหร่ ส่วนผมได้ไปทานอาหารที่ร้านดีๆ  เลยรู้สึกขอโทษน้องๆ ด้วยนะครับ(หัวเราะ)”

MC : สำหรับงานในครั้งนี้  The Boss ได้เตรียมความพิเศษอะไรมามอบแก่แฟนๆชาวไทยบ้างคะ?
มิกะ : “พวกเรามีเพลงมาฝากแฟนคลับ 2 เพลงนะครับ หนึ่งในนั้นมีเพลงชื่อ Calling You จากอัลบั้มเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วย อยากจะให้ทุกๆ คนมาดูการแสดงของพวกเรากันเยอะๆนะครับ”

MC : สุดท้ายนี้มีอะไรจะฝากถึงแฟนๆ และ พี่ๆสื่อมวลชนบ้างมั๊ยคะ?
The Boss  : “ขอบคุณแฟนคลับที่รอมานานนะครับ พวกเราจะคัมแบ็คเร็วๆนี้ ช่วยติดตามผลงานของพวกเราด้วยนะครับ  ขอขอบคุณพี่ๆสื่อมวลชนและแฟนคลับที่ให้การต้อนรับพวกอย่างดี ขอบคุณมากครับ”
โจซองโม : “ขอบคุณสื่อมวลชนทุกคนนะครับ  ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน หวังว่าแฟนคลับชาวไทยจะรักน้องๆ ของผมมากยิ่งขึ้น แล้วก็อย่าลืมผมด้วยนะครับ (หัวเราะ)”