GM&AB ผุดโปรเจคแรกเอาใจคอเพลงแจ๊สตัวจริง กับคอนเสิร์ตแจ๊สที่คุ้มที่สุด “Bangkok Jazz Collective” ดื่มด่ำบทเพลงแจ๊สคุณภาพเต็มอิ่มกว่าสี่ชั่วโมง พบลิซ่า โอโนะ พร้อม Soul After Six แต่ละวงจัดเต็มไม่ต่ำกว่าวงละชั่วโมง

GM&AB ผุดโปรเจคแรกเอาใจคอเพลงแจ๊สตัวจริง

กับคอนเสิร์ตแจ๊สที่คุ้มที่สุด “Bangkok Jazz Collective”

ดื่มด่ำบทเพลงแจ๊สคุณภาพเต็มอิ่มกว่าสี่ชั่วโมง

พบลิซ่า โอโนะ พร้อม Soul After Six แต่ละวงจัดเต็มไม่ต่ำกว่าวงละชั่วโมง

 

GM&AB ขอผุดโปรเจคแรกเปิดตัว กับการสร้างสรรค์คอนเสิร์ตสุดคุ้มคอมโบแพ็ก  “Bangkok Jazz Collective” (แบงคอก แจ๊ส คอลเลคทีฟ) ให้คอเพลงแจ๊สได้ดื่มด่ำกับเสียงเพลงจากศิลปินแจ๊สคุณภาพชั้นนำทั้งจากไทยและเทศ ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลล์ในโรงภาพยนตร์ยาวนานเต็มอิ่มกว่าสี่ชั่วโมง ให้ประสบการณ์สุดพิเศษที่น่าจดจำสำหรับคอเพลงแจ๊สตัวจริง

สำหรับความพิเศษของงาน “Bangkok Jazz Collective” ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่อยากจะสร้างสรรค์เทศกาลดนตรีแจ๊สที่มีคุณภาพอย่างแท้จริงในประเทศไทย เพื่อให้คอเพลงแจ๊สของไทยได้มีโอกาสดื่มด่ำไปกับเสียงเพลง จากศิลปินแจ๊สคุณภาพที่รับรองว่าแต่ละวงขนโชว์มาฝากอย่างเต็มโชว์ไม่ต่ำกว่าวงละชั่วโมงแทบไม่ต่างจากได้ดูคอนเสิร์ตเดี่ยวของแต่ละศิลปิน  ไม่ว่าจะเป็น นักร้องบอซซ่าเสียงนุ่มสุดโปรดของคนไทยอย่าง  Lisa Ono นักร้องบอซซ่าชื่อดังชาวญี่ปุ่นผู้เคยได้ร่วมงานมาแล้วกับผู้บุกเบิกดนตรีแนวบอซซาโนว่า Antonio Carlos Jobim และ Joao Donato  และในครั้งนี้พิเศษกว่าการมาครั้งอื่นซึ่งจะมาแสดงร่วมกับ String Orchestra ซึ่ง Lisa Ono ได้เตรียมเพลงพิเศษมากมายมาแสดงในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีนัก Trumpet ชื่อดัง Ingrid Jensen สมาชิกของวง Maria Schneider Jazz Orchestra, และเคยร่วมงานกับศิลปินใหญ่ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น Jazz หรือแนวอื่นๆ อย่าง Corinne Bailey Ray , Ingrid ได้รับรางวัล Juno หลายรางวัล    ซึ่งเป็น Grammy Awards ของแคนาดา Ingrid Jensen จะมาร่วมเล่นกับ ดร. เด่น อยู่ประเสริฐ มือเปียโนแจ๊สอันดับหนึ่งของประเทศไทย เจ้าของรางวัลศิลปาธรปี 2009 และคมชัดลึกอวอร์ดปี 2008 นอกจากนี้ยังมีวงคุณภาพของประเทศไทยอย่าง  Soul After Six เป็นการร่วมตัวของ 3 หนุ่ม ได้แก่ บิ๊ก, ปึ่ง, ปิงปอง มานานกว่า 20 ปี ซึ่งมีหลายเพลง ที่เป็นที่จดจำหลายเพลงเช่น ก้อนหินละเมอ รักเก่าๆ และ วง Mellow Motif วงแจ๊สจากประเทศไทยวงเดียวในตลาดที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับในระดับเอเชีย

เรียกได้ว่าคอเพลงแจ๊สของไทยไม่ควรพลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสกับศิลปินแจ๊สคุณภาพระดับโลกทั้งของไทยและเทศที่จะมาร่วมกันสรรค์สร้างโชว์สุดพิเศษในครั้งนี้ สัมผัสอรรถรสของดนตรี          แจ๊สแบบเต็มอิ่มได้ที่งาน “Bangkok Jazz Collective”  ในวันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2556 เริ่มตั้งแต่เวลา 17.30 – 23.30 น. ที่ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย, สยามพารากอน บัตรราคา 2,500 / 1,800  บาท

โดยสามารถซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ ผ่านทาง  www.thaiticketmajor.com, บูธ Thaiticketmajor   ทุกสาขา, TTM CALL CENTER    02-262-3456

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bangkokjazzcollective.com

 

 

ประวัติส่วนตัวของ ลิซ่า โอโนะ Lisa Ono

ลิซ่า โอโนะ เกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962) ในเมืองซานเปาโล ประเทศบราซิล เมื่อเธออายุ 10 ขวบได้ติดตามครอบครัวไปอยู่โตเกียว แต่เธอใช้ชีวิตอยู่ทั้งที่ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และ รีโอเดจาเนโร ในบราซิลประเทศบราซิล พ่อของเธอมีร้านอาหารบราซิลเลียน ลิซ่าได้ทำงานเป็นนักร้องในคลับของพ่อ ตลอดชีวิตของสาววัย 44 คนนี้คลุกคลีกับเพลงแนวบราซิลเลียนมาโดยตลอด ทำให้เพลงของลิซ่าจึงเป็นเพลงที่มีสไตล์เฉพาะของบราซิลเลียน และบอสซา โนวา เธอได้ออกอัลบั้มแรกชื่อ Catupiry เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ซึ่งนั่นทำให้เธอกลายเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงในเวลาต่อมา

 

ลิซ่าเป็นนักร้องชาวญี่ปุ่นที่สร้างสรรค์งานเพลงคุณภาพสไตล์บอสซา โนวาร่วมสมัย เธอคนนี้เป็นที่รู้จักไปทั่ว             ทั้งในญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศทั่วโลก มีความสามารถและพรสวรรค์ในการเป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และนักเล่นกีตาร์อะคูสติก เธอโด่งดังมากในแนว บอสซา โนวา แซมบ้า และแจ๊ส

 

เพิ่งสร้างความฮือฮาในหมู่คอเพลงบอสซาโนวากับการออกซีรี่ส์เพลงบอสซาโนวาในภาษาละติน นั่นก็คืออัลบั้ม Romance Latino ออกมาถึง 3 ชุดด้วยกัน (vol.1-3) ซึ่งล้วนเป็นเพลงใหม่ที่บันทึกเสียงใหม่ทั้งหมด ซึ่งบทเพลงเด่นๆจากทั้ง 3 อัลบั้ม ก็ได้ถูกรวบรวมมาไว้ในอัลบั้ม Romance Latino Selection ที่ได้รวบรวมเอา 12 บทเพลงที่ดีที่สุด และเพราะที่สุดมาไว้ในอัลบั้มเดียว พร้อม 3 เพลงใหม่ รับรองว่าเป็นที่ถูกใจของแฟนเพลง Lisa Ono อย่างแน่นอน

 

 

 

เนื้อหา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=401356

http://www.kratookfilm.com/wb/viewtopic.php?p=67509

ภาพ :      https://www.facebook.com/onolisaofficial/photos_stream

 

Ingrid Jensen

Inggridเกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2509 (ค.ศ.1966) ที่แวนคูเวอร์, และเติบโตใน นาไนโม, แคนาดา Inggridได้รับทุนศึกษาเข้าเรียนวิทยาศาสตร์ดนตรีในบอสตันหลังจากจรการศึกษาในปีพ.ศ.2532(ค.ศ.1989) ชีวิตของInggridได้มีกิจกรรมทางดนตรีมากมาย จากวันแรกที่Inggridเล่นอยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดินของนิวยอร์ก จนปัจจุบันInggridเป็นนักดนตรีที่เล่นทรัมเป็ต flugelhorn ที่มีความเฉลียวฉลาด มีไฟอยู่ในตัวเธอ ความเก่งของInggridสร้างจากจิตวิญญาณในตัวที่มีความอบอุ่น ความละเอียดอ่อน ความสนใจ และความจริงจับการเล่นดนตรีของเธอ

            หลังจากที่Inggridได้รับ ทุนการศึกษา เข้าเรียนวิทยาลัยดนตรี ในบอสตัน ตั้งแต่ จบการศึกษา ในปี 1989 ชีวิต ของเธอได้มีกิจกรรมดนตรีมากมายที่สร้างชื่อ จนตัวเองเป็นผู้นำและ นักร้องเดี่ยว Inggrid ได้ทำ ซีดีของเธอ และ ซีดี ล่าสุดของเธอ ชนะการเสนอชื่อ ของเธอจากรางวัลจูโน แคนาดา(เป็น Grammy Awards ของแคนาดา) รวมทั้ง ได้รับรางวัลในปี 1995 สำหรับการแสดงของInggridในฐานะศิลปินเดี่ยว ที่โดดเด่นของเธอ ได้นำการแสดงไปทั่วโลก จากแคนาดา ไปยังประเทศญี่ปุ่น , ออสเตรเลีย, South America, South Africa , แคริบเบียนและ เกือบทุกประเทศ ในยุโรปและ สแกนดิเนเวี ทุกมุมโลก

Inggrid เจนเซ่น มีชื่อเสียงในฐานะศิลปินเดี่ยว กับ คริสติน เจนเซ่น Orchestra วงของเธอเอง รวมเป็นกลุ่ม โครงการ O  Inggridได้รับการชื่นชม  และมีชื่อเสียงในหมู่นักวิจารณ์ และ คนรอบข้าง ในปี 2003 เธอได้รับการ เสนอชื่อเข้าชิงเป็นครั้งที่สำหรับสองการเป่าทรัมเป็ต ดนตรีแจ๊ส  สมาคมนักข่าวในนิวยอร์กมีให้เห็นเป็นประจำทุกปี ในห้าของนักวิจารณ์ โพลล์ ในความสามารถที่สมควรได้รับการยอมรับในวงกว้าง Inggrid เป็นสมาชิกของวงMaria Schneider Jazz Orchestra Inggrid มีจุดเด่นอยู่ที่ Gil Evans’ Porgy และเบส ที่เทศกาล San Francisco Jazz Festival  และเคยร่วมงานกับศิลปินใหญ่ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น Jazz หรือแนวอื่นๆ อย่าง Corinne Bailey Ray , นอกจากนี้ยังเป็น แขกรับเชิญใน “Tribute to Woody Shaw and Freddie Hubbard” ร่วมกับ Terence Blanchard, Eddie Henderson, Bobby Hutcherson และKenny Garrett นักดนตรีจำนวนมากที่เธอได้บันทึกการแสดงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Steve Wilson, Jeff ‘Tain’ Watts, Dr.Lonnie Smith, Marc Copland, Bob Berg, Gary Thomas, Gary Bartz, Jeff Hamilton, Bill Stewart, Terri-Lynn Carrington, Geri Allen, Geoffrey Keezer, Billy Hart, George Garzone, Chris Connor, Victor Lewis, Clark Terry, Frank Wess, Badal Roy, Mike Clark, Jason Miles and Global Noize, Dr. Billy Taylor and the DIVA Big Band และอีกหลายศิลปิน Ingrid ได้รับรางวัล Juno หลายรางวัล (เป็น Grammy Awards ของแคนาดา)

Ingrid คือพนักงานที่ Port Townsend Centrum Jazz Workshop เป็นเวลาห้าปีติดต่อกันและจากปี 1990 จนถึงปี 1992 จัดได้ว่าเป็นศาสตราจารย์ทรัมเป็ตแจ๊สที่ Bruckner Conservatory ในประเทศออสเตรีย ปัจจุบันเธอเป็นศิลปิน อยู่ในคณะทรัมเป็ตที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนในแอนอาร์เบอร์ Ingrid ยังคงดำเนินต่อเพื่อเติมเต็มความคิดสร้างสรรค์ศิลปะในฐานะนักดนตรีและการศึกษา นอกเหนือไปจากการแสดงของเธอและการฝึกอบรมทั่วโลก

 

Mellow Motif

Bio

วง Mellow Motif เป็นวงดนตรีสไตล์แจ๊ซ บอซซาโนว่า ที่นำเสนอทั้ง original music และผลงานการเรียบเรียงดนตรี              ที่ไม่เหมือนใคร โดยมีความโดดเด่นอยู่ที่จุดยืนในความเป็นแจ๊สที่ดั้งเดิม ฝีมือที่เน้นการแสดงสดเป็นหลัก และการนำเสนอบทเพลงเก่าในรูปแบบใหม่ สร้างความสดใหม่ให้กับบทเพลงเดิมๆ วงเมลโล่ โมทีฟ ก่อตั้งโดย โอ่ง – ณัฐชา ปัทมพงศ์ (ร้องนำ) และมือเปียโนชาวสิงคโปร์ ยูจีน อัง (เปียโน) ซึ่งรู้จักกันตอนเรียนอยู่ที่อเมริกา โดยเริ่มต้นจากการเป็นวง                   ในรั้วมหาวิทยาลัยที่ Carnegie Mellon University เมืองพิทส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย และต่อมาได้ย้อนกลับมาออกอัลบั้มที่ประเทศไทย รวมตัวกับนักดนตรีแจ๊สฝีมือดีอย่าง โอ๋ พรชาติ วิริยะภาค (ดับเบิลเบส) แง๊ว อาณัติ เอี่ยมวงษ์ศรีกุล (กีต้าร์) เอิร์ธ องอาจ กวีเกียรติคุณ (กลอง) และ สฤษฏ ตันเป็นสุข (ทรัมเป็ต) โดยที่มีผลงานกับค่ายวอร์เนอร์ มิวสิค 2 อัลบั้ม อัลบั้มแรก ‘Mellow Motif’(2009) มีซิงเกิ้ลเป็นเพลงป๊อบสไตล์บอซซาโนว่า “Lemon Tree” และเพลงบราซิลเลี่ยนภาษาโปรตุเกส ‘O Pato’ ในอัลบั้มที่สอง ‘สบายดี’(2010) มีซิงเกิ้ลคือเพลง ‘รู้สึกสบายดี’ ซึ่งเป็นเพลงของ ประภาส ชลศรานนทร์ ที่วงเมลโล่ โมทีฟ ได้นำมาเรียบเรียงใหม่ในสไตล์แจ๊ส วงเมลโล่ โมทีฟ ผ่านเวทีการแสดงขนาดใหญ่ในต่างประเทศ          มามากมายไม่ว่าจะเป็นงาน Jazz festival ในประเทศจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง หรือ อินโดนีเซีย นับว่าเป็นวงไทยสาย Vocal jazz วงแรกและวงเดียวที่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ฟังแจ๊สในระดับอินเตอร์ อย่างกว้างขวาง

ผลงานในปีนี้ที่ผ่านมา Mellow Motif at Jakarta International Java Jazz Festival 2013!

หลังจากมีผลงานของตัวเองออกมา 2 อัลบั้มและทำให้คอเพลงแจ๊สไทยได้ทึ่งในฝีมือมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในแนว Straight-ahead Jazz หรือ Brazilian Jazz เป็นที่รู้กันว่า นักฟังคนไทยไม่ใช่กลุ่มเดียวที่เป็นปลื้มกับวง เมลโล่ โมทีฟ (Mellow Motif) เพราะปีนี้วงแจ๊สวงนี้ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทย ไปโชว์ฝีมือที่ Java Jazz Festival กันมาแล้วที่เมือง                  จาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งงานนี้เป็นแจ๊ซเฟสติวัล ที่เรียกได้ว่าใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลกทีเดียว โดยปีนี้จะเป็นปีที่ 9 นับว่าเป็นเกียรติเป็นอย่างมากเพราะว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก ที่วงไทยได้รับเชิญไปแสดงฝีมือที่งานนี้ งานเฟสติวัลซึ่งรวมยอดฝีมือระดับโลกไว้ไม่ว่าจะเป็น Stevie Wonder, Herbie Hancock, Pat Metheny, ฯลฯ นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ Mellow Motif จะได้นำเสนอผลงานของตัวเองในต่างประเทศ ให้กลุ่มผู้ชมจากทั่วทุกมุมโลกกว่าแสนคนได้ฟัง และให้ทั่วโลกได้เห็นถึงคุณภาพของนักดนตรีแจ๊สรุ่นใหม่ในประเทศไทย

 

Soul After Six

ประวัติ

“Soul After Six”  เป็นวงดนตรีไทยที่ก่อตั้งวงกันมากว่ายี่สิบปี โดยที่สมาชิกในวงจะชื่นชอบดนตรีแนวโซล ,ฟังกี้, แอซิด แจ๊ส  ที่มีลักษณะเครื่องดนตรีหลายชิ้นและมีกลุ่มเครื่องเป่า.. ทางวงได้ร่วมกันแต่งเพลงเล่นดนตรีกันมาโดยตลอด                  โดยยุคแรกๆนั้น พอหลังเลิกเรียน ก็จะนัดซ้อมดนตรีกันหลังหกโมงเย็น จึงเป็นที่มาของชื่อวง  โดยสมาชิกหลักของวงมีดังนี้ :

1. วิศรุตเทพ สุพรรณเภสัช (ปิงปอง)  : ร้องนำ,แต่งเพลง,เปียโน,คอรัส
2. ณรงค์ฤทธิ์ สุพรรณเภสัช (ปึ่ง) : แต่งเพลง,เปียโน,คอรัส
3. ศรุต วิจิตรานนท์  (บิ๊ก) : เบส

ผลงาน

-          พ.ศ.2539   อัลบั้มแรกชื่อเดียวกับวง สังกัด เบเกอรี่ มิวสิค .. อัลบั้มชุดแรกนี้ทำให้ผู้ฟังเริ่มรู้จักวงและแนวดนตรีที่ทางวงนำเสนอโดยมีเพลงที่ผู้ฟังรู้จักกันดี เช่น ก้อนหินละเมอ, รู้, รักแล้ว, รอ (คงเพียงพอ) … งานอัลบั้มชุดนี้ได้รับรางวัล               สีสัน อวอร์ด  3 รางวัล คือศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม, ศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม และ เพลงในการบันทึกเสียงยอดเยี่ยม

-            พ.ศ.2545   อัลบั้มชุดที่ 2 ชื่อ “The Rhythm” สังกัด เบเกอรี่ มิวสิค.. อัลบั้มชุดนี้ก็ยังคงเน้นแนวดนตรีที่ทางวงชื่นชอบเป็นหลัก ในแต่ละเพลงก็ยังคงนำเสนอรายละเอียดทางการเรียบเรียงเสียงประสานที่พิถีพิถันเช่นเดิม.. เพลงที่ผู้ฟังให้ความชื่นชอบ เช่น จังหวะชีวิต,เห็นฉันไหม, วันของเรา .. งานอัลบั้มชุดนี้ได้รับรางวัล สีสัน อวอร์ด 3 รางวัล คือ  อัลบั้มยอดเยี่ยม, ศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม และ เพลงในการบันทึกเสียงยอดเยี่ยม

-          พ.ศ.2546   อัลบั้มพิเศษ ชื่อ “Mellow Moods” สังกัด เบเกอรี่ มิวสิค.. อัลบั้มนี้เป็นการนำเพลงยุคเก่าของศิลปินท่านอื่น ที่สมาชิกในวงชื่นชอบมา Cover ใหม่โดยทำการเรียบเรียงเสียงประสานใหม่ทั้งหมด .. เพลงส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่ไพเราะฟังสบายๆ จึงได้รับการตอบรับในวงกว้าง เพลงที่เป็นที่รู้จักกันดี เช่น รักเก่าๆ, คิดจะรักก็รัก        เข้าใจไปเอง …

-          พ.ศ.2555 … ทางวงได้กลับมารวมตัวกันสร้างผลงานเพลงอีกครั้ง และปล่อยซิงเกิ้ลแรกในรอบสิบปีที่มีชื่อเพลงว่า “เวลา” ซึ่งได้รับการตอบรับและการสนับสนุนจากแฟนๆเป็นอย่างดี…

-          พ.ศ. 2556 … ทางวงได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่สอง  เพลง “คนละทางเดียวกัน” ออกมาในเดือนพฤษภาคม…และซิงเกิ้ลล่าสุด “กลัว” ในเดือนกันยายน

• ติดตามข้อมูล ความเคลื่อนไหวของ Soul After Six ได้ที่ :

-          www.facebook.com/soulaftersixband และ  www.youtube.com/soulaftersixband

• ดาวน์โหลด เพลงของ Soul After Six ได้ที่  *927716  และ itune.apple.com